top of page
Search

กระจกโลวอี LOW E คืออะไร ดีไม่ดีอย่างไร


lowE

ช่วงนี้พอดีมีโฆษณาเกี่ยวกับกระจกโลวอี เลยขอนำผู้อ่านมารู้จักกับกระจกชนิดนี้จะได้ไม่ตกยุค

กระจกโลวอี Low-E, Low E, Low emissivity เป็นกระจกที่มีมายาวนานกว่า 30 ปีในประเทศเมืองหนาว แต่มาเริ่มเป็นที่นิยมใช้กันในเมืองไทยใน 2-3 ปีที่ผ่านมา หลังจากที่มีการรณรงค์เรื่องการลดความร้อนในอาคาร และการลดการใช้กระจกสะท้อนแสง และราคากระจกจากประเทศจีนที่มีราคาถูกมากได้นำเข้ามา

ซึ่งลักษณะการกระจกโลวอีมีหลากหลายแบบ และบางชนิดไม่มีมีข้อดีมากมายอย่างที่เข้าใจกัน

บทความนี้ให้ข้อมูลเพื่อให้ผุ้อ่านได้มีข้อมูลในการเลือกใช้กระจกโลวอีมากขึ้น

กระจกโลวอี Low-E, Low E, Low emissivity เป็นกระจกเคลือบผิวโลหะซึ่งงมีคุณสมบัติ 2 อย่างที่สำคัญ

  1. กระจกจะแผ่รังสีความร้อนต่ำกว่ากระจกธรรมดา (เป็นที่มาของคำว่า Low emissivity นั่นเอง) ความร้อนในตัวกระจกจะถ่ายเทสู่อากาศที่เย็นกว่าน้อยกว่ากระจกทั่วไป

  2. กระจกชนิดนี้ช่วยลดความร้อนจากแสงแดด แต่ใสสว่าง แสงสะท้อนต้ำ เพราะกระจกโลวอี ให้แสงสว่างในแสงแดดผ่านได้ แต่ป้องกันรังสีความร้อน (อินฟาเรด)ในแสงแดดให้ผ่านได้น้อยกว่า กระจกธรรมดา (แต่กันความร้อนได้มากหรือน้อยขนาดไหนนั้นก็ขึ้นกับประสิทธิภาพของกระจกแต่ละสูตรการผลิต)

โลหะที่นำมาเคลือบ อาจจะเป็น อลูมีเนียม หรือเงิน แต่โลหะเงินได้รับความนิยมมากกว่าโลหะชนิดอื่นๆเนื่องจาก คุณสมบัติในการแผ่ความร้อนน้อยมาก ถ้าแบ่งกระจกโลวอี ตามวิธีการผลิตจะแบ่งได้ 2 แบบ

กระจกโลวอีแบบผิวเคลือบแข็ง hard coat low E

กระจกโลวอีแบบผิวเคลือบอ่อน Soft coat low E

กระจกโลวอีแบบผิวเคลือบแข็ง hard coat low E

ผลิตด้วยวิธีพ่นไอโลหะร้อนไปทำปฏิกิริยาเคมีแล้วฝังตัวบนผิวกระจกที่ยังร้อนอยู่ ซึ่งวิธีเคลือบผิวแบบแข็งนี้้องทำตั้งแต่ขบวนการผลิตกระจกแผ่นเรียบ float glass

ดุวิธีการผลิตกระจกแผ่นเรียบได้ที่

(รูปขบวนการผลิตกระจก)

ข้อดีของกระจกโลวอีแบบผิวเคลือบแข็ง

มีความสว่างค่อนข้างสูง ประมาณ 80% ผิวเคลือบแข็งแรงสามารถนำกระจกไปแปรรูปอย่างอื่นได้เช่น อบแข็งเทมเปอร์ ลามิเนต และที่สำคัญ "สามารถใช้เป็นกระจกแผ่นเดี่ยวได้” ไม่เป็นสนิมโลหะ

ข้อด้อยของกระจกโลวอีแบบผิวเคลือบแข็ง

เนื่องจากข้อจำกัดในการผลิตทำให้จำนวนชั้นโลหะที่เคลือบบนกระจกมีน้อย ผลที่ได้คือกระจกชนิดนี้ลดความร้อนจากแสงแดดได้ต่ำเมื่อใช้ในเมืองร้อน ลดความร้อนได้เพียง 15% เท่านั้น

กระจกโลวอีแบบเคลือบแข็งลดรังสีความร้อนจากแสงแดดได้น้อย แต่กักความร้อนในอาคารได้ดี ดังนั้น การใช้งานเมืองร้อนจะได้ประสิทธิภาพไม่ตรงการใช้งาน

กระจกโลวอีแบบผิวเคลือบอ่อน Soft coat low E

กระจกโลวอีแบบนี้จะถูกเคลือบภายหลังด้วยวิธี เคลือบแบบแม่เหล็กไฟฟ้า ดุวิธีการผลิตกระจกได้ที่

หลักการณ์คือ กระจกถูกป้อนเข้าไปในด้านล่างของห้องที่เป็นสูญญากาศและมี ขั้วแม่เล็กไฟฟ้าอยู่บนและล่าง โดยแท่งโลหะจะอยู่ด้านบน แก๊สอากอนจะถูกปล่อยในห้องและถูกเหนี่ยวนำให้กลายเป็นประจุไฟฟ้า ประจุอากอนจะถูกดูดขึ้นด้านบน ด้วยสนามแม่เหล็กกระแทกโมเลกุลแท่งโลหะตกลงมาฝังตัวเคลือบบนผิวกระจก

ข้อดีของกระจกโลวอีแบบผิวเคลือบอ่อน

สามารถผลิตกระจกโลวอีที่มีประสิทธิภาพได้หลากหลาย จากชนิดของโลหะ และจำนวนของโลหะที่ใช้ โดยผิวเคลือบสามารถทำได้ตั้งแต่ 5-13 ชั้น ซึ่งจะเรียกกันว่า

single low E สำหรับเคลือบเงิน 1 ชั้น และผิวเคลือบรวม 5 ชั้น

double low E สำหรับเคลือบเงิน 2 ชั้น และผิวเคลือบรวม 9 ชั้น

Triple Low E สำหรับเคลือบเงิน 3 ชั้น และผิวเคลือบรวม 13 ชั้น

รูป

(ตัวอย่างรุปโครงสร้างกระจกโลวอี แบบ triple low E //src:http://www.kierantimberlake.com/posts/view/242)

ทำให้การลดความร้อนของกระจกโลวอีแบบผิวเคลือบอ่อนชนิดนี้ ดีกว่ากระจกโลวอีแบบเคลือบแข็งมาก และเหมาะสำหรับอากาศเมืองร้อนอย่างประเทศไทย เพราะสามารถลดความร้อนรังสีดวงอาทิตย์ได้ดีกว่ากระจกโลวอีแบบเคลือบแข็งมาก

ข้อด้อยของกระจกโลวอีแบบผิวเคลือบอ่อน

กระจกโลวอีแบบผิวเคลือบอ่อน เมื่อสัมผัสอากาศและความชื้น จะเกิดสนิม ทำให้ต้องใช้งานกระจกชนิดนี้ในรูปแบบ กระจกฉนวนอากาศ insulating glass, IG glass, double glazing glass (กระจกที่ทำฝาตู้แช่เครื่องดื่ม เมื่อมองดูระหว่างระจกจะเห็นมีแถบสีเงินเจาะรูเล็กๆด้านข้าง) เท่านั้น

กระจกโลวอีแบบผิวเคลือบอ่อน ไม่สามารถผ่านการแปรรูปในรูปแบบ เทมเปอร์หรือลามิเนตได้ หากต้องการคุณสมบัติดังกล่าว ต้องผ่านกระบวนการ เทมเปอร์หรือลามิเนต ก่อนแล้วนำไปเคลือบผิว จากนั้นต้องนำไปทำเป็นชุดกระจกฉนวนอากาศอีกครั้ง

ราคาของกระจกโลวอีผิวเคลือบอ่อนค่อนข้างสูง เนื่องจากต้องใช้งานในรูปแบบกระจกฉนวนอากาศเท่านั้น

ความเข้าใจผิดในการใช้กระจกโลวอี

ในการใช้งานผู้เขียนได้พบว่ามีการใช้งานที่ไม่เหมาะสมค่อนข้างบ่อย เช่น

กระจกโลวอีแบบเคลือบแข็งถ้าทำเป็นกระจกลามิเนตต้องเอาด้านเคลือบออกให้สัมผัสอากาศ บ่อยครั้งมีการเอาหน้าเคลือบไว้ด้านในผั่งที่ต้องประกบกับโพลีเมอร์ซึ่งทำให้กระจกสูญเสียค่าความเป็นฉนวนความร้อนไป แต่ที่ทำกันเพราะกระจกจะไม่เป็นรอยบนผิวเคลือบ

หรือ มักเข้าใจผิดกันไปว่า กระจก double glazing คือกระจกโลวอี ซึ่งในความเป็นจริงกระจกโลวอีแบบผิวเคลือบอ่อนไม่ใช่กระจก double glazing แต่ต้องใช้งานในรูปแบบของกระจก double glazing เท่านั้นและกระจก double glazing ไม่จำเป็นต้องใช้กระจกโลวอีมาผลิต ใช้กระจกใสมาผลิตก็ได้

หวังว่าผู้อ่านจะมีความเข้าใจเกี่ยวกับกระจกโลวอีมากขึ้นนะครับ แล้วไว้พบกันใหม่ในตอนต่อไป

Comments


bottom of page